public SheetCreator Work(PDFGenerator pdf, AppraisalArchive header) { int freeSpaceLine = 0; // จำนวนบรรทัดที่ห่างจากชื่อลูกค้า pdf .BeginPage(header.Header.BankDatas.CustName, avoidNull(header.Header.JobNo), freeSpaceLine, "ชื่อหัวเรื่อง ถ้าไม่มีให้ลบออก") .Text("ข้อความ 1") .EndPage(); return this; }
public SheetCreator Example(PDFGenerator pdf, AppraisalArchive header) { pdf .BeginPage(header.Header.BankDatas.CustName, avoidNull(header.Header.JobNo), 0, "7.1 วิธีการประเมินมูลค่าสิทธิการเช่า") .NewLine() .TextBold("วิธีการประเมินมูลค่าสิทธิการเช่า โดยวิธีทางด้านรายได้ Discounted Cash Flow").NewLine(2) .Tab(2).Text("โดยทั่วไป การประมูลค่าสิทธิการเช่าจะหมายถึงการหามูลค่าของผู้เช่า ซึ่งมูลค่าสิทธิการเช่าจะมีมูลค่าก็ต่อเมื่อผู้เช่าจ่ายค่าเช่า").NewLine() .Text("ต่ำกว่าราคาเช่าตลาด ทำให้ผู้เช่าได้กำไรจากการเสียค่าเช่าในสัญญาต่ำกว่าราคาเช่าในตลาด").NewLine(2) .Tab(2).Text("มูลค่าของสิทธิการเช่า").Tab(5).Text("=").Tab().Text("มูลค่าปัจจุบันทั้งหมดของกำไรจากการเช่าตลอดอายุสัญญาที่เหลือ").NewLine() .Tab(2).Text("ซึ่งกำไรจากการเช่า").Tab(5).Text("=").Tab().Text("ค่าเช่าในราคาตลาด - ค่าเช่าที่จ่ายตามสัญญา").NewLine() .Tab(2).Text("(ผู้เช่าจะได้รับกำไรจากการเช่าก็ต่อเมื่อ)").Tab(9).Text(":").Tab().Text("ค่าเช่าในตลาด > ค่าเช่าที่จ่ายตามในสัญญา").NewLine(2) .Tab(2).Text("การหามูลค่ากำไรจากค่าเช่า (ซึ่งกำไรจากการเช่า = ค่าเช่าในราคาตลาด - ค่าเช่าในสัญญา) ทั้งหมดตลอดอายุสัญญาเช่าที่เหลือ").NewLine() .Text("ในสัญญา แล้วนำมาหาเป็นมูลค่าปัจจุบัน โดยวิธี Discounted Cash Flow").NewLine() .DrawLine().NewLine() .CheckBox("ข้อความ A",true).NewLine() .CheckBox("ข้อความ B",false).NewLine() .Guidline() .DrawRectangle(35, 350, 560, 80) .EndPage(); return this; }